หลักการสร้าง Web site
ในการทำเว็บไซต์ นั้นก็คล้ายๆกับการทำงาน Presentation เพียงแต่เปลี่ยนประเภทของสื่อเท่านั้นมีหลักการ
ดังนี้
1. กำหนดจุดมุ่งหมายและกลุ่มเป้าหมายก่อนที่จะทำอะไรต้องมีจุดมุ่งหมายในการทำงาน
การทำเว็บไซต์ก็เช่นเดียวกัน ท่านจะต้องมีจุดหมายว่า ท่านจะทำเพื่ออะไร เพื่อใครเมื่อท่านมีจุดมุ่งหมายและกลุ่มเป้าหมายที่แน่ชัดแล้ว
จะทำให้ท่านมองเห็นเป้าหมายในการทำงานได้ชัดเจนขึ้น
2. รวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่างๆเมื่อได้เรื่องราวที่จะนำเสนอ
โดยมีจุดมุ่งหมายและกลุ่มเป้าหมายแน่ชัดแล้ว ก็ถึงขั้นตอนในการรวบรวมแหล่งข้อมูล
3. ศึกษาและเรียงลำดับข้อมูลเมื่อได้ข้อมูลมาแล้ว
ก็ถึงเวลาที่จะต้องศึกษากันว่าส่วนไหนที่เกี่ยวข้องกันบ้าง และแยกเป็นหมวดเป็นหมู่
4. การออกแบบสาร
(Message Design)เมื่อได้เนื้อหาและหัวข้อในการนำเสนอแล้ว การออกแบบเนื้อหาให้น่าสนใจ
ถ้าตามหลักของเทคโนโลยีการศึกษาเราจะเรียกว่าการออกแบบสาร (Massage Design)
การออกแบบสารนี้นอกจากเนื้อหาแล้ว ยังรวมไปถึงองค์ประกอบต่างในการนำเสนอด้วย
เช่น สีของตัวอักษร, ภาพประกอบ, กราฟิกต่างๆ,
เสียง ฯลฯ
5. ทำแผนผังของงาน
(Flowchart)ขั้นตอนนี้จะทำให้จัดเรียงลำดับเรื่องราวได้ง่ายขึ้น และเป็นประโยชน์ในการเชื่อมโยง
(link) เนื้อหาที่เกี่ยวข้องกัน นักออกแบบบางคนอาจใช้กระดาษสติกเกอร์แปะไว้บนบอร์ด
ตามลำดับของเนื้อหาเพราะง่ายต่อการเปลี่ยนแปลง
6. การเขียน
Storyboard หากท่านเคยทำงาน
Presentation มาก่อนก็คงจะทราบว่าประโยชน์ของ Storyboard นั้นมี มากมาย เพราะจะทำให้มองเห็นภาพหน้าจอได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
7. ลงมือทำงานการใดๆ ถ้าไม่ลงมือทำ
ก็ย่อมไม่เห็นผลสัมฤทธิ์
8. ทดสอบและประเมินผลหลังจากที่ทำเสร็จทุกขั้นตอนของการทำเว็บเพจแล้ว
ก็ควรจะมีการทดสอบและประเมินผล
ข้อดี ของสตอรี่บอร์ดเว็บไซต์
v
สตอรี่บอร์ดเว็บไซต์จะทำให้กระบวนการออกแบบง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ช่วยประหยัดเวลาและเงิน
v
สตอรี่บอร์ดเว็บไซต์จะช่วยให้มองเห็นผลของโครงการ
v
สตอรี่บอร์ดเว็บไซต์สามารถวาดภาพร่างอย่างรวดเร็วของกระดานเรื่องราวในไม่กี่วินาที
วิธีการเขียนสตอรี่บอร์ด(Storyboard)
การเขียน สตอรี่บอร์ด(Storyboard) ไม่จำเป็นต้องวาดรูปเป็น
การเขียนเน้นระดับในการถ่ายทอดความคิดในการสร้างผลงานในแต่ละผลงาน ซึ่งภาพที่วาดออกมาจะต้องเป็นสิ่งที่ต้องการให้เกิดขึ้นจริงทางจอภาพนั้นเอง
หลักการที่เขียน สตอรี่บอร์ด(Storyboard) เพื่อการกำหนดตำแหน่งต่าง
ๆ ของสิ่งของ ตัวละคร
เป็นต้น จะต้องคำนึงถึงมุมมองของภาพว่าความว่าให้มีความสมดุลของจอภาพ การนำเสียงบรรยายเสียงเพลงบรรเลง
หรือเสียงธรรมชาติทำให้ผลงานนั้นน่าสนใจในการเขียน สตอรี่บอร์ด(Storyboard) จะต้องมีความเข้าใจเนื้อหา
ตัวละครแต่ละตัวในเรื่องบทบาทและหน้าที่ ดังนี้
1. อ่านเนื้อเรื่องแล้วกำหนดจำนวนฉาก
2. ออกแบบตัวละครหลักในเรื่อง
โดยทุกฉากจะต้องดูเป็นคนคนเดียวกัน เช่น ทำให้แต่งกายเหมือนกัน จะเป็นลักษณะของการเขียนภาพซ้ำ
ๆ แต่เปลี่ยนมุมมอง
3. ไม่มีคำพูด แต่จะแสดงออกท่าทางและสีหน้าแทนการพูด
4. ดูต่อเนื่อง เป็นเรื่องเดียวกัน
สามารถมองย้อนกลับไปว่า จากภาพเนื้อเรื่องคร่าว ๆ เป็นอย่างไรการเขียนสตอรี่บอร์ด(Storyboard) เป็นการเขียนภาพนิ่งในกระดาษเพื่อสร้างให้เป็นภาพเคลื่อนไหวในจอภาพในรูปแบบของมัลติมีเดีย (Multimedia) หรือสื่อประสม
ซึ่งจะประกอบด้วย ภาพนิ่ง ข้อความเสียง การกำหนดการเขียน สตอรี่บอร์ด(Storyboard)เป็นการลำดับเรื่อง
หรือการเล่าเรื่อง ที่จะสร้างผลงานให้มองเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น มุมกล้อง ตัวละคร และฉากเป็นสิ่งที่จะต้องมีความสัมพันธ์กัน
เมื่อเริ่มสร้างงานจะสามารถมองเห็นการทำงานชัดเจนขึ้น
